|

{ทริป} เที่ยววังหลัง กิน ช็อป 1 วัน ชิวมากแม้เวลาน้อย

อยากหาที่เดินกินช็อปชิวๆฟีลเน้นเดินเล่น ในกรุงเทพฯนอกจากสวนจตุจักรแล้ว อีกจุดหนึ่งที่คนนิยมมากันคือตลาดวังหลังซึ่งต้องบอกเลยว่าสำหรับคนที่ไม่เคยมา ที่นี่มีเสื้อผ้าของแฟชั่นและร้านอาหารอร่อยๆเพียบเลยครับ การเดินทางมายังวังหลังผมใช้รถยนต์ส่วนตัวโดยนำมาจอดไว้ที่อาคารจอดรถภายในวัดระฆังซึ่งมีค่าบริการชั่วโมงละ 20 บาทเท่านั้น ที่จอดกว้างขวางมากและดูปลอดภัยสุดๆ

ที่จอดรถวังหลัง
วังหลัง

จากที่จอดรถเดินมาไม่ถึง 100 เมตร ก็จะเป็นที่ตั้งของตลาดวังหลังครับ แต่ก่อนอื่นขอเข้ามาไหว้พระและสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก่อนที่ “วัดระฆัง” วัดชื่อดังที่หลายๆคนนิยมเข้ามาสักการะ

วัดระฆัง

ตามประวัติแต่เดิมคือเป็นวัดโบราณร้างครับถูกสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยอยุธยา และยังมีความข้องเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และพระเจ้าแผ่นดินในยุคสมัยต่างๆมาโดยตลอดเกือบทุกรัชสมัย มีโบราณสถานที่สำคัญเช่น พระอุโบสถที่เป็นรูปทรงแบบสมัยรัชกาลที่ ๑ รวมไปถึงสิ่งปลูกสร้างอย่างพระวิหารก็ถูกจัดสร้างในสมัยของรัชกาลที่ ๑ เช่นกัน

วัดระฆัง

พระประธานยิ้มรับฟ้า เป็นพระพุทธรูปเนื้อทองสำริดปางสมาธิที่ได้รับการยกย่องว่างดงามมาก

วัดระฆัง
วัดระฆัง
วัดระฆัง

หลังจากเดินเล่นที่และสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เรียบร้อยแล้วก็มาเดินเล่นต่อที่ตลาดวังหลัง  ซึ่งถึงแม้ผมจะมาถึงประมาณ 4 โมงกว่าๆ ก็ยังคงมีของต่างๆจำหน่ายอยู่ไม่ว่าจะเป็นข้างของเครื่องใช้ รวมไปถึงร้านอาหารต่างๆที่เปิดบริการอยู่มากมายเลย ใครที่ส่วนตัวแล้วไม่ชอบเดินแบบแดดร้อนๆก็สามารถมาเดินเล่นช่วงบ่ายๆได้ครับ 

วังหลัง

แวะทานอาหารมื้อเย็นที่ “อรทัย ซูชิ” เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นขนาดใหญ่ซึ่งใครมาก็ต้องแวะสักครั้ง รู้จักกันในชื่อ”ซูชิวังหลัง” ด้านเมนูก็มีให้เลือกเยอะมากและที่สำคัญคือราคาไม่แพงโดด ยังจัดว่าถูกกว่าตามห้างพอสมควรเลย

อรทัย ซูชิ
เมนูอาหาร อรทัย ซูชิ

โรลแซลมอนเบิร์น 5 คำโตๆ ราคา 120 บาท ที่นี่เค้าให้แซลมอนชิ้นค่อนข้างหนาดีที่เดียวครับ ข้างบนเบิร์นไฟมาให้ ส่วนด้านในของข้าวปั้นก็สอดไส้พวกไข่หวานกับปูอัดมาแบบแน่นมากๆ

ซูชิวังหลัง

แซลม่อนซาชิมิขนาด 2 ขีด โปะมาบนน้ำแข็งเย็นๆ ราคา 300 บาทครับ

ซูชิวังหลัง

มื้อนี้อิ่มท้องกำลังดีเลย กินกัน 2 คนหมดไป 611 บาทครับ

ของคาวเสร็จก็ต้องจบด้วยของหวาน คาเฟ่บรรยากาศดีมากๆอย่างร้าน “N10” ซึ่งด้านบนเป็นโรงแรม ส่วนด้านล่างฝั่งติดแม่น้ำทำเป็นคาเฟ่บรรยากาศดีมากๆครับ จากมุมนั่งทานสามารถมองเห็นท่ามหาราชซึ่งอยู่อีกฝั่งหนึ่งได้อย่างชัดเจน เป็นอีกหนึ่งร้านดังของวังหลังเลย

 บรรยากาศภายในร้านตกแต่งมีความย้อนยุคนิดๆครับ เค้กและของหวานมีให้เลือกมากมายเลย 

คาเฟ่วังหลัง
คาเฟ่วังหลัง

บรรยากาศโซนเอ้าท์ดอร์ฝั่งริมน้ำ มาช่วงเย็นคือฟีลดีมากๆ และเนื่องจากเป็นริมน้ำทำให้อากาศไม่ร้อน

วังหลัง

ครั้งนี้เราเลือกสั่งเป็นช็อคโกแล็ตปั่นกับเค้กชาเขียว ขอชื่นชมว่าอร่อยมากๆทั้ง 2 อย่างเลยครับ 

จบทริปที่ “วัดอรุณ” อีกหนึ่งแลนด์มาร์กสำคัญของกรุงเทพฯ ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากวัดระฆังเพียง 1.5 กิโลเท่านั้น มาที่นี่ในเวลาเย็นๆ 18:00 น. เป็นต้นไปเพื่อที่จะได้เห็นวัดอรุณเปิดไฟสวยๆ

วัดอรุณ

ผู้ดูแลแจ้งว่าภายในวัดปิดประมาณ 18:00 น. แต่รอบๆบริเวณวัดยังสามารถมาเดินถ่ายรูปได้ ซึ่งพอเรามาคนก็กำลังทยอยเข้ามาชมความงามรอบๆตัววัดกันอย่างล้นหลาม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติครับ

วัดอรุณ

วันธรรมดาที่ใครที่ยังไม่มีแพลนไปไหนและมีเวลาไม่มาก ที่เที่ยวที่ได้ใช้เวลาอย่างคุ้มค่ากับคนที่เรารักคือการมาเที่ยวรอบๆกรุงเช่นการเที่ยววังหลังและมาต่อที่วัดอรุณ ก็เป็นสถานที่ที่สวยๆที่ขนาดชาวต่างชาติยังต้องมา สำหรับผมแล้วก็ถือว่าเป็นทริปที่คุ้มค่ามากๆทั้งเรื่องของเวลาและใช้เงินไม่มากด้วย

ชื่อ : ตลาดวังหลัง

สถานที่ตั้ง : ซอยวังหลัง แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ

วัน – เวลาทำการ : 9:00 น. – 18:00 น.

พิกัด : https://goo.gl/maps/rnPJ2gqn7EFySzt27

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

The Quarter Chaophraya cover

Similar Posts