{รีวิว} สัมผัสหมอกจางๆ เที่ยวปางอุ๋ง จ.แม่ฮ่องสอน

จำนวนผู้อ่าน 929

ปางอุ๋งหรือโครงการพระราชดำริปางตอง 2 ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่บ้านรวมไทย ต.หมอกจำแป่ อ.แม่ฮ่องสอน จ.แม่ฮ่องสอน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในช่วงฤดูหนาวที่เหมาะแก่การมากางเต็นท์แคมป์ปิ้งและพาครอบครัวมาเที่ยวชมธรรมชาติโดยเฉพาะการมาได้สัมผัสอากาศเย็นจัดในตอนกลางคืน และได้นั่งชมบรรยากาศดีๆของหมอกยามเช้าที่งดงาม

การมาเที่ยวปางอุ๋งนั้นสามารถเดินทางมาได้โดยการขับรถยนต์ส่วนตัวหรือรถเช่าที่คุณติดต่อไว้ รถยนต์ของบุคคลภายนอกสามารถทำการเข้าและออกเฉพาะเวลาที่ทางอุทยานฯกำหนดไว้เท่านั้น คือ 7:00 น. – 20:00 น. โดยการมาเที่ยวแม่ฮ่องสอนในครั้งนี้ เราติดต่อเช่ารถยนต์ไว้ล่วงหน้านะครับ

ซึ่งใครที่อยากสัมผัสบรรยากาศจริงๆของปางอุ๋งที่มีหลายมู้ดใน 1 วัน แนะนำให้ลองมากางเต็นท์ ซึ่งสามารถเตรียมมาเองก็ได้ หรือจะมาเช่าของอุทยานก็ได้ครับโดยสามารถเข้าไปจองได้ที่ https://nps.dnp.go.th/reservation.php แล้เลือกว่า อช.ถ้ำปลา-น้ำตกผาเสื่อ ครับ โดยมีค่าบริการรวมเต็นท์และหมอน ชุดเครื่องนอนพร้อม ไม่เกิน 450 บาทโดยประมาณ

สำหรับเราเราเลือกใช้เต๊นท์และเครื่องนอนทั้งหมดจากทางอุทยาน การจองนั้นอาจจะต้องใจเย็นๆ เพราะเว็บไซต์ในช่วงที่เป็นเทศกาลจะโหลดช้า และมีขั้นตอนที่กว่าเราจะได้รับการยืนยันว่าจองสำเร็จ ใช้เวลาประมาณ 1-2 อาทิตย์

สำหรับใครที่แพลนจะมากางเต็นท์ อย่าลืมแคบหน้าจอการโอนเงิน และหลักฐานทั้งหมดไว้ด้วย เมื่อมาถึงให้ติดต่อกับทางเจ้าหน้าที่อุทยานได้เลย

นี่ครับ เมื่อยื่นหลักฐานการโอนเงินอะไรต่างๆเรียบร้อยแล้ว ทางอุทยานก็จะออกใบเสร็จแบบนี้มาให้เรา ซึ่งให้เราขับเข้าไปติดต่อกับทางเจ้าหน้าที่ที่ดูแลเรื่องที่พักได้เลย

นี่คือจุดที่ต้องนำใบเสร็จที่เจ้าหน้าที่ด้านหน้าออกให้นำมาติดต่อด้านใน เพื่อที่จะหยิบหมอนและเครื่องนอนตามจำนวนที่เราได้จองไว้จากหน้าเว็บไซต์

การมาเที่ยวครั้งนี้เป็นช่วงหลังเทศกาล เต็นท์จึงค่อนข้างว่างและทางพี่ผู้ดูแลก็ให้เราเลือกทำเลที่เราชอบได้เลย ว่าอยากพักตรงไหน เราเลยเลือกเป็นเต็นท์ด้านหน้าติดริมอ่างเก็บน้ำ อารมณ์ว่าตื่นมาก็เห็นหมอกเลย

พื้นที่ภายในเต็นท์ค่อนข้างกว้างเลยทีเดียวครับ พื้นที่เหลือๆเลย สามารถวางของได้เยอะ และมีพื้นที่ด้านหน้าเต็นท์ไว้นั่งชมบรรยากาศได้ด้วย

บรรยากาศโดยรอบมีทิวสนสวยๆเต็มไปหมด ให้ฟีลเหมือนมาเที่ยวเมืองนอกเลย

อีกหนึ่งไฮไลท์ของการมาเที่ยวปางอุ๋งคือการนั่งบนแพไม้ไผ่โดยมีค่าบริการลำละ 150 บาท สามารถนั่งได้ 2-3 คนครับ

เวลาที่นิยมนั่งบนแพไม้ไผ่คือช่วงเช้าเพื่อที่จะได้ชมหมอกแบบชัดๆ แต่เนื่องจากเรากลัวจะตื่นไม่ทันจึงเลือกลงแพตั้งแต่ช่วงเย็น ซึ่งก็ได้ฟีลไปอีกแบบบวกกับคนไม่มากทำให้ไม่ต้องรอคิวนาน

ชมวิวสวยๆยามเย็นสองฟากฝั่งของอ่างเก็บน้ำ บรรยากาศตอนเย็นอากาศเริ่มหนาวแล้วครับ

เรื่องอาหารเย็น ที่นี่เค้ามีให้บริการหมูกระทะด้วยนะครับโดยเป็นร้านของชาวบ้านที่ได้รับอนุญาติจากทางอุทยาน จำหน่ายในราคาชุดละ 350 บาท รวมน้ำจิ้มและเนื้อหมูปริมาณกำลังพอดีแบบอิ่มสำหรับ 2 คน หรือใครที่กลัวจะทานไม่อิ่มก็สามารถซื้อเนื้อหมูเพิ่มจากทางร้านได้

น้องคนขายคุยเก่งมาก บริการดีและนำเตาถ่านมาตั้งให้

จบค่ำคืนไปแบบอิ่มมากๆ ปริมาณเยอะพอสมควรเลยนะครับสำหรับราคานี้

วันที่ 2

เริ่มต้นวันใหม่ บรรยากาศของหมอกยามเช้าเป็นที่จับตาต้องใจมาก โดยจะเริ่มมีหมอกให้เห็นชัดตั้งแต่ช่วง 6 โมงเช้าไปจนถึง 8 โมงครับ เวลานี้คนที่พักแรมที่นี่ก็จะเริ่มตื่นกันมาถ่ายรูปหรือบางคนก็จะไปล่องแพไม้ไผ่ที่จุดให้บริการ ซึ่งก็ต้องรอคิวครับ

อุณหภูมิช่วงต้นปีนี้นะครับ ช่วงที่ผมไปประมาณต้นมกราครับ ยังหนาวอยู่

สำหรับมื้ออาหารเช้า แนะนำให้ออกไปทานตรงทางเข้าหมู่บ้านหรือด้านหน้าของอุทยานครับ โดยทั้งสองฝั่งมีร้านค้า ร้านอาหารให้บริการมื้อเช้าอยู่หลายร้านและราคาไม่แพง เราเลือกมาทานที่ร้าน “ลุงยอโฮมสเตย์” ซึ่งมีจำหน่ายอาหารเช้าด้วยไม่ว่าจะเป็นข้าวกระเพราหมูสับ ไข่กระทะ หรือสามารถเดินไปฝั่งตรงข้ามเพื่อสั่งพวกหมั่นโถวทอดเข้ามาทานก็ได้ครับ

ไข่กระทะชุดละ 50 บาท ใส่เครื่องเยอะมาก ทั้งไส้กรอก ทั้งแฮมถือว่าจัดเต็มมาก

หมั่นโถวทอดจากร้านฝั่งตรงข้ามก็สั่งมาทานได้

สำหรับใครที่มองหาที่เที่ยวบรรยากาศดีถึงดีมาก มีทั้งหมอก ทั้งเขา ทั้งน้ำให้ชมแบบครบครัน ปางอุ๋งเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะกับคนรักและแบบครอบครัว นอกจากที่พักแบบเต็นท์แล้ว ที่นี่ยังมีให้บริการที่พักแบบบ้านหลังด้วยนะครับ โดยสามารถเข้าไปเช็คราคาได้ผ่านเว็บไซต์ของอุทยานครับ