เที่ยวแม่ฮ่องสอน cover

แจกแพลนเที่ยวแม่ฮ่องสอน 4 วัน 3 คืน ฉบับขับเที่ยวเอง

เที่ยวแม่ฮ่องสอน cover

#อยากไปแบบนี้ x แม่ฮ่องสอน

แม่ฮ่องสอนเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่เต็มไปด้วยซีนเนอรี่แปลกตาหลากหลายจุด ซึ่งทำให้อยากมาเที่ยวดูสักครั้ง ยิ่งในช่วงฤดูหนาวทำให้อยากมาสัมผัสมากขึ้น โดยสิ่งแรกที่เราต้องทำคือการจองตั๋วเครื่องบิน ซึ่งต้องบอกว่าไฟลท์บินจากกรุงเทพฯไปลงที่สนามบินแม่ฮ่องสอนปกติเค้าก็จะมีวันละเที่ยวเท่านั้น เราจองตรงกับนกแอร์ค่าใช้จ่ายต่อคนรวมไปและกลับ จะตกอยู่ที่คนละ 4,496 บาท นอกจากนี้เราก็ยังทำการเช่ารถไว้ล่วงหน้ากับร้านที่เราเสิชหาทาง Facebook (ร้าน Front&Fern) โดยไปรับได้ที่สนามบินได้มีการวางมัดจำล่วงหน้าบางส่วนครับ

วันที่ 1

สนามบินแม่ฮองสอน > จุดชมวิวลุกข้าวหลาม > จุดชุมวิวดอยกิ่วลม > เมืองปาย

วันแรกเป็นวันแห่งการเดินทางจากกรุงเทพฯสู่แม่ฮ่องสอน และจากสนามบินมุ่งตรงสู่ปายครับ หลายคนสงสัยว่าเครื่องที่นั่งไปเป็นเครื่องแบบไหน เป็นแบบลำเล็กและเป็นใบพัดครับ แต่เดี๋ยวก่อน… ทีแรกเราก็กังวลเหมือนกันว่าจะน่ากลัวไหม แต่หลังจากเครื่องเทคออฟจนถึงแลนด์ดิ้งขอบอกเลยว่านั่งสบายมาก ไม่สั่นไม่เวียนหัวและเครื่องยังดูใหม่มากๆ เบ็ดเสร็จแล้วใช้เวลาบนเครื่องประมาณ 1.30 ชม.ก็ถึงสนามบินปลายทาง ซึ่งหลังจากแลนด์แล้วเราก็มีเวลาที่ค่อนข้างจำกัดเพื่อขับไปปาย โดยเราแวะเที่ยวระหว่างทาง 2 จุดคือ จุดชมวิวลุกข้าวหลามและจุดต่อมาคือ จุดชมวิวกิ่วลม ทั้งสองจุดเป็นทางผ่านทั้งคู่ระยะเวลาที่ใช้ขับรถจากสนามบินไปปายรวมแวะ  2 ชั่วโมง 40 นาที แต่หากใครไม่ต้องการแวะก็สามารถใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมงได้ครับ

เที่ยวแม่ฮ่องสอน วันที่ 1

ถึงแม่ฮ่องสอนประมาณ 14.45 น. อย่างปลอดภัย เราก็เดินออกมาติดต่อรถที่เช่าไว้กับพี่นงจากร้าน https://www.facebook.com/frontfrentravel/ โดยได้ Yaris Ativ ตัวใหม่ป้ายแดงในราคาวันละ 1,300 บาท ซึ่งถือว่าถูกมากๆครับถ้าเทียบกับรถใหม่ไม่กี่วันและต้องขึ้นเขาลงห้วย เรียกได้ว่าใช้จนคุ้มมากๆใครที่มองหารถเช่าที่แม่ฮ่องสอน เป็นรถใหม่ในราคาคุ้มค่าก็ลองติดต่อทางพี่นงได้เลยครับ

ออกจากสนามบินและตรงยาวเพื่อมุ่งสู่ปาย ที่แรกแวะถ่ายรูประหว่างทางที่จุดชมวิวลุกข้าวหลาม โดยมีเบื้องหลังเป็นภูเขาสลับซับซ้อน บริเวณนี้สามารถจอดรถได้สะดวกมากและฝั่งตรงข้ามยังมีขายอาหารและของฝากต่างๆด้วย ใครที่หาที่แวะกินระหว่างทางก็สามารถฝากท้องแบบง่ายๆตรงนี้ได้ครับ

จุดชมวิวลุกข้าวหลาม

เป็นจุดชมวิวสวยตั้งอยู่ก่อนเข้าอำเภอปางมะผ้า ประมาณ 20 กิโลเมตร บริเวณนี้มีแนวเขาสลับซับซ้อนและลดหลั่นกันไปตามภูมิประเทศ เป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอินที่ควรต้องแวะเพื่อเก็บภาพครับ และบริเวณรอบๆของจุดชมวิวยังมีร้านค้าของชาวบ้านจำหน่ายทั้งของกิน ของใช้ด้วย ใครที่หาของรองท้องระหว่างขับรถก็สามารถเลือกซื้อบริเวณนี้ได้ครับ

จุดชมวิวดอยกิ่วลม

เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกในช่วงหน้าหนาวและคนนิยมมาดูพระอาทิตย์ขึ้นและตกกันบริเวณนี้ครับ ซึ่งตรงนี้ก็เป็นทางผ่านของเราก่อนเข้าปาย

โรงแรม บีทู ปาย ฟรีเมียร์ รีสอร์ท

มาถึงปาย ใช้เวลาเดินทางเบ็ดเสร็จเกือบ 3 ชั่วโมง รวมแวะถ่ายรูป โดยคืนนี้เราพักกันที่โรงแรม B2 เป็นโรงแรมมาตรฐาน ห้องพักกว้างและมีสระว่ายน้ำอยู่ในที่พักและยังสามารถเดินไปถนนคนเดินปายได้ระยะทางประมาณ 800 เมตรครับ

ถนนคนเดินปาย

ฝากท้องของมื้อเย็นสำหรับวันนี้ที่ถนนคนเดินปาย ที่น่าแปลกใจคือบรรยากาศจะคล้ายๆกับถนนข้าวสารครับ คือมีความคึกคัก และร้อยละ 90 คือชาวต่างชาติที่มานั่งตามบาร์ มาเดินหาของอร่อยๆกินอาหารที่นี่มีให้เลือกเยอะมากๆและราคาค่อนข้างถูก

อ่านเรื่อง ที่เที่ยวปาย เต็มๆ เพิ่มเติม >> คลิก

——————————————————————-

วันที่ 2

ทะเลหมอกหยุนไหล > หมู่บ้านสันติชล > Om Garden Cafe > ถ้ำน้ำลอด > บ้านจ่าโบ > บ้านรักไทย

ทะเลหมอกหยุนไหล

ทะเลหมอกสวยๆของปายที่ทุกคนควรต้องมาและต้องตื่นแต่เช้าประมาณตี 4 กว่าๆครับ ตั้งอยู่ห่างจากที่พักประมาณ 6 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที โดยเมื่อมาถึงบริเวณตีนเขาก็จะต้องนำรถมาจอดและนั่งรถกระบะหรือสองแถวขึ้นไปเพราะทางขึ้นมันแคบมากๆ และเป็นถนนดินไม่เหมาะกับรถเล็ก ซึ่งมีค่าบริการต่อคันคือ 350 บาทครับ รวมไปและกลับ

บริเวณด้านบนมีร้านค้า มีอาหารบริการให้นักท่องเที่ยว เช่น กาแฟ, หมั่นโถวทอด บอกเลยว่ารับประทานไปด้วยชมวิวไปด้วย ฟินสุดๆครับ แนะนำให้มาเช้าๆ นะครับ คนที่มาก่อนสามารถจับจองพื้นที่ดูวิวได้ก่อน จะได้ไม่พลาดมุมสวยๆชมพระอาทิตย์ขึ้นพร้อมหมอก

เวลาประมาณตี 5 กว่าๆเกือบ 6 โมงพระอาทิตย์ก็เริ่มส่องแสงขึ้นมาจากขอบฟ้า ก็จะเริ่มเห็นหมอกชัดขึ้นครับ โดยเราสามารถเช็คเวลาพระอาทิตย์ขึ้นง่ายๆผ่าน Google โดยการพิมพ์ในช่องคนหา “พระอาทิตย์ขึ้น ปาย” Google ก็จะแสดงเวลาพระอาทิตย์ขึ้นในช่วงวันที่เราไปได้อย่างแม่นยำ

ที่จุดชมวิวทะเลหมอกหยุนไหลมีจุดถ่ายภาพมากมายสามารถเก็บภาพความประทับใจได้อย่างเต็มอิ่ม ถูกใจสายโซเชียลกันเลยทีเดียว ก่อนนั่งรถกลับลงไปสามารถเลือกซื้อของฝากในร้านค้ากันได้ที่ร้านขายของที่ระลึก

หมู่บ้านสันติชล

หมู่บ้านสันติชลเป็นอีกที่ๆเราชอบมากๆ เป็นหมู่บ้านเล็กๆเหมาะกับการมาเดินเล่นถ่ายรูปและมีกิจกรรมต่างๆสำหรับนักท่องเที่ยวให้ได้ทำ ทั้งการนั่งบนชิงช้าไม้ไปจนถึงการขี่ม้า ในส่วนของฝากที่นี่ก็ราคาไม่แพงครับมีชาต่างๆที่หากไปเทียบกับหมู่บ้านรักไทยที่นี่คือถูกกว่ามาก

หมู่บ้านสันติชล

Om Garden Cafe

เที่ยวปาย

ก่อนออกจากปายแวะทานอาหารเช้าที่ร้านโอมการ์เด้นท์ คาเฟ่ เป็นร้านอาหารเช้าและคาเฟ่เล็กๆตั้งอยู่บริเวณเมืองปายไม่ไกลจากถนนคนเดิน ภายในร้านบรรยากาศน่ารักเต็มไปด้วยต้นไม้และสวนหย่อม ที่นี่จะเด่นพวกเมนูเพื่อสุขภาพครับ พวก toast และพวก saladส่วนราคาเมนูอาหารเช้าจะอยู่ที่ประมาณ 100 กว่าบาทครับ อร่อยมากๆครับ ส่วนพวกกาแฟก็ราคาทั่วไปประมาณ 40-50 บาทแล้วแต่เมนู

Om Cafe

ถ้ำน้ำลอด

ออกจากปาย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง ถ้ำเก่าแก่โบราณมีอายุกว่า 2000 ปี ในนี้มีกิจกรรมให้ทำระหว่างเที่ยวชม ทั้งการล่องเรือและการชมโรงศพโบราณของผีแมน จากเส้นหลักถนนใหญ่ขับเข้าไปใช้เวลาไม่เกิน 20 นาทีครับ

การเข้าถ้ำน้ำลอดมีค่าบริการไกด์นำทางกับคนพายเรือ คิดเหมาครับ ประมาณ 560 บาท ของเรามากันแค่ 2 คนก็ตกคนละ 200 กว่าบาท และยังมีค่าเข้าอุทยานคนละ 20 บาทครับ

การเตรียมตัวเข้าถ้ำ ควรใส่รองเท้าคัทชูหรือสนีกเกอร์ที่เหมาะสำหรับการเดิน เพราะในถ้ำจะมีบางจุดที่ค่อนข้างลื่นและชัน โดยจากจุดลงทะเบียนไกด์จะดูแลเราตลอดทริปเลยครับ ซึ่งพี่ๆไกด์ก็คือแข็งแรงมาก ชวนคุยตลอดทางเลย เป็นอีกสถานที่ที่แนะนำให้แวะมาสักครั้งครับ

บ้านจ่าโบ

ใครที่พอมีเวลาสามารถแวะเข้ามาทานอาหารราคาหลักสิบแต่วิวหลักล้านที่บ้านจ่าโบได้ครับ มีคาเฟ่และร้านอาหารให้เลือก 3-4 ร้าน โดยจากถนนเส้นหลักขับเข้าไปนิดเดียวเอง เราเลือกแวะทานอาหารกลางวันที่ร้าน “สาวลาหู่” เป็นร้านอาหารและคาเฟ่เล็กๆแบบบ้านๆ โดยมีเมนูอาหารจานเดี่ยวและเมนูเครื่องดื่มในราคาหลักสิบเท่านั้น โดยเราสั่งเป็นข้าวไข่เจียวหมูสับใส่ผักเยอะๆจานละ 60 บาทเท่านั้นส่วนอีกจานเป็นข้าวกระเพราหมูสับครับ

ที่บ้านจ่าโบนอกจากจะมีคาเฟ่แล้วยังมีโฮมสเตย์สามารถพักและตื่นมาชมหมอกถึงหน้าห้องพักได้อีกด้วยครับ

อ่านเรื่อง บ้านจ่าโบ๋ เพิ่มเติม >> คลิก

บ้านจ่าโบ

ชาสารักไทย รีสอร์ท

จากบ้านจ่าโบขับไปที่หมู่บ้านรักไทย ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที ทางไปบ้านรักไทยค่อนข้างชันต้องขับด้วยความระมัดระวังมากๆนะครับ โดยคืนนี้เราเลือกพักที่ “ชาสา รีสอร์ท” เป็นที่พักขนาดใหญ่มีห้องพักให้เลือกหลายแบบ เราเลือกพักแบบห้อง 2 คน โซน A ราคาคืนละ 2,200 บาท รวมอาหารเช้า

บ้านรักไทย
เที่ยวบ้านรักไทย
ล่องเรือ บ้านรักไทย

อ่านเรื่อง บ้านรักไทย เต็มๆ >> คลิก

——————————————————————-

วันที่ 3

บ้านรักไทย > พระตำหนักปางตอง > ลุงปาละ ค๊อฟฟี่เฮาส์ > จุดกางเต็นท์ถ้ำปลา (ปางอุ๋ง)

แพลนเที่ยวแม่ฮ่องสอน

ลีไวน์ คาเฟ่

ลีไวน์ คาเฟ่เป็นร้านกาแฟและขนมหวานเล็กๆ มี 2 ชั้น ตั้งอยู่ติดริมอ่างเก็บน้ำ จุดขายคือวิวที่สวยมาก มีมุมยอดฮิตที่ทุกคนมาต้องถ่าย ที่ร้านมีเค้กให้เลือกหลากหลายตั้งแต่เค้กชาเขียว ไปจนถึงชีสเค้กอร่อยๆและยังมีเมนูเครื่องดื่มทั้งชาและกาแฟให้เลือกสั่งอีกด้วย

อ่านเรื่อง บ้านรักไทย เต็มๆ เพิ่มเติม >> คลิก

เที่ยวไร่ชา ลีไวน์รักไทย

ขึ้นมาเก็บภาพสวยๆบนไร่ชาที่ลีไวน์รักไทย ด้านบนนี้บรรยากาศดีและคนที่ไม่ได้พักที่นี่ก็สามารถขึ้นมาถ่ายรูปได้โดยมีค่าบริการคนละเพียง 40 บาทเท่านั้น บรรยากาศมีความเป็นจีนดีมากๆ มีทั้งไร่ชา ทั้งศาลาที่นั่งด้านบนสุดของไร่ชาที่มองเห็นวิวหลักล้าน

อ่านเรื่อง บ้านรักไทย เต็มๆ เพิ่มเติม >> คลิก

พระตำหนักปางตอง

เที่ยวพระตำหนักปางตอง ตั้งอยู่ที่ตำบลหมอกจำแป่ เป็นโครงการในพระราชดำริเพื่อพัฒนาพื้นที่สูง ไม่เสียค่าเข้าชมนะครับ สามารถขับเข้ามาให้อาหารน้องแกะได้ด้วย

ลุงปาละ คอฟฟี่เฮ้าส์

แวะทานอาหารและจิบกาแฟที่ร้านลุงปาละ คอฟฟี่ เฮ้าส์ (Pala Coffee House) ซึ่งเป็นร้านเล็กๆบรรยากาศร่มรื่นตั้งอยู่บริเวณทางเข้าปางอุ๋ง ด้านในร้านมีต้นไผ่ยักษ์ที่มีความสูงกว่า 20 เมตรให้เราได้ชมและถ่ายรูปด้วยนะ นอกจากคาเฟ่แล้ว ที่นี่ยังมีที่พักเป็น โฮมสเตย์ปางอุ๋ง สำหรับคนที่ต้องการนอนด้านนอกอุทยานฯ

จุดกางเต็นท์ อุทยานแห่งชาติถ้ำปลา-น้ำตกผาเสื่อ (ปางอุ๋ง)

อีกหนึ่งไฮไลท์ของการมาเที่ยวที่แม่ฮ่องสอนคือการได้มานอนเต็นท์ ในอุทยานแห่งชาติถ้ำปลาครับ ให้เลือกพิกัดว่า “จุดกางเต็นท์ อุทยานแห่งชาติถ้ำปลา-น้ำตกผาเสื่อ” นะครับ ซึ่งสำหรับใครที่ต้องการมานอนเต็นท์แบบนี้ควรจองล่วงหน้า โดยสามารถจองผ่านทางเว็บไซต์ของอุทยาน https://nps.dnp.go.th/reservation.php เลือกว่า อช.ถ้ำปลา-น้ำตกผาเสื่อ ครับ โดยมีค่าบริการรวมเต็นท์และหมอน ชุดเครื่องนอนพร้อม ไม่เกิน 450 บาท

อ่านเรื่อง ปางอุ๋ง เต็มๆ เพิ่มเติม >> คลิก

แต่สำหรับใครที่ไม่อยากนอนเต็นท์ ทางอุทยานฯเค้าก็มีบ้านพักเป็นหลังๆซึ่งได้วิวของอ่างเก็บน้ำแบบชัดเจนมากครับ ถ้าสนใจก็สามารถติดต่อสอบถามได้ที่เบอร์อุทยาน : 086-424-7371 ครับ

——————————————————————-

วันที่ 4

ปางอุ๋ง > ไออุ๋น คาเฟ่ > สะพานซูตองเป้ > ร้านใบเฟิร์น > เวตัวลา คาเฟ่ > วัดจองคำ > สนามบินแม่ฮ่องสอน

สัมผัสไอหมอกตอนเช้า ณ ปางอุ๋ง

ตื่นเช้ามืดมานั่งรอสัมผัสไอหมอกพร้อมถ่ายรูปสวยๆบริเวณหน้าเต็นท์ อากาศตอนเช้าค่อนข้างหนาวถึงหนาวมากโดยช่วงที่เรามาอากาศต่ำสุดที่ 7 องศาเท่านั้น

ใครที่มองหาอาหารเช้าแนะนำให้ออกมาทานบริเวณด้านหน้าของอุทยานครับ เราเลือกมาทานที่ร้าน “ลุงยอโฮมสเตย์” ซึ่งมีจำหน่ายอาหารเช้าด้วยไม่ว่าจะเป็นข้าวกระเพราหมูสับ ไข่กระทะ หรือสามารถเดินไปฝั่งตรงข้ามเพื่อสั่งพวกหมั่นโถวทอดเข้ามาทานก็ได้ครับ

อ่านเรื่อง ปางอุ๋ง เต็มๆ เพิ่มเติม >> คลิก

ไออุ่น คาเฟ่

“ไออุ่น คาเฟ่” ตั้งอยู่ก่อนจะเข้ามาถึงยังปางอุ๋ง ที่นี่หากมาในช่วงหน้าฝน ก็จะมีวิวนาขั้นบันไดให้นั่งมองชิวๆด้วยตัวร้านตกแต่งในสไตล์มินิมัล ด้วยสีขาวคลีนๆเลยครับ และในบริเวณก็ยังให้บริการที่พักอีกด้วย เหมาะสำหรับใครที่ไม่ต้องการพักในอุทยาน และมองหาที่พักใหม่ๆบรรยากาศดี

สะพานซูตองเป้

อีกหนึ่งแลนด์มาร์กของการมาเที่ยวที่แม่ฮ่องสอนคือเช็คอินที่นี่เลย สะพานซูตองเป้เป็นสะพานไม้ไผ่ทอดยาวผ่านทุ่งนามีความยาวรวมกว่า 500 เมตร โดยสองข้างทางเดินไม้ไผ่เป็นทุ่งนาเขียวขจีให้เราสามารถเดินชมแบบเพลิดเพลินไปจนสุดทาง เมื่อเดินไปจนสุดสะพานไม้ไผ่ด้านบนเป็นที่ตั้งของธรรมะภูสมะ ซึ่งเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมและมีพระพุทธรูปหลวงพ่อซูตองเป้ ประดิษฐานอยู่ให้ผู้มีจิตรศรัทธาได้มากราบไหว้บูชา โดยพระพุทธรูปองค์นี้สร้างขึ้นด้วยศิลปะแบบเมียนมา

ร้านใบเฟิร์น

ร้านใบเฟิร์น เป็นร้านอาหารเหนือตั้งอยู่ริมถนนขุนลุมประพาส บริเวณอำเภอเมือง เป็นร้านที่อร่อยสมกับชื่อเสียง แต่ละเมนูให้เยอะจนแทบจะต้องห่อกลับ ถือว่าคุ้มค่าทั้งราคาและปริมาณ

เวตัวลา คาเฟ่

คาเฟ่เล็กๆตั้งอยู่ไม่ไกลจากสนามบินแม่ฮ่องสอน โดยรอบของร้านต้องบอกว่ามีความร่มรื่นมากๆ มีการปลูกต้นไม้จำพวกไม้ด่างไปจนถึงต้นบอนสีอยู่ทั่วบริเวณตั้งแต่ทางเข้า ให้ความรู้สีกเหมือนมาเที่ยวสวนสวยๆและข้างๆกันก็ยังมีบ่อปลาคาร์ฟเล็กๆให้เราสามารถมานั่งมองน้ำจิบกาแฟแบบสบายใจ เมนูพวกของหวาน พวกเค้ก ก็ครบครันจัดเต็มในราคาที่เป็นมาตรฐานและไม่แรง อย่างพวกเครื่องดื่มเย็นเฉลี่ยแก้วละ 40-60 บาทเท่านั้น

วัดจองคำ

วัดจองคำ เป็นวัดคู่แฝดอันมีชื่อเสียงคู่กับวัดจองกลาง สร้างขึ้นตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2370 หรือเกือบ 200 ปีมาแล้ว ด้านในเต็มไปด้วยประวัติและเรื่องราวของเมืองแม่ฮ่องสอนตั้งแต่อดีตและยังมีพิพิธภัณฑ์ให้สามารถเข้าชมได้ฟรีอีกด้วยครับ

แพลนเที่ยวแม่ฮ่องสอน ฉบับขับรถเที่ยวเองนี้ แนะนำสำหรับคนที่มีสกิลด้านการขับขี่พอสมควรนะครับ เนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นหุบเขาสูงจึงต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างสูง ขอบคุณที่ติดตามอ่านจนจบเนื้อหา คุณผู้อ่านสามารถชมเนื้อหาเพิ่มเติมได้ทางลิ้งค์ด้านล่างนะครับ

อ่านเรื่อง ที่เที่ยวปาย เต็มๆ เพิ่มเติม >> คลิก

อ่านเรื่อง บ้านรักไทย เต็มๆ เพิ่มเติม >> คลิก

อ่านเรื่อง ปางอุ๋ง เต็มๆ เพิ่มเติม >> คลิก

แล้วเจอกันใหม่นะแม่ฮ่องสอน

Similar Posts