วันเดียว เที่ยว Nikko (เมืองมรดกโลก)
มาเที่ยวญี่ปุ่น หนึ่งในเมืองยอดนิยมที่หลายคนต้องลิสต์ใส่ไว้ในแพลนเที่ยวคือ “นิกโก” บางท่านอาจจะเคยได้ยินชื่อเมืองนี้ผ่านหูมาบ้างหรือแม้กระทั่งเห็นสะพานสีแดงมุมถ่ายรูปยอดฮิตผ่านๆตาในโซเชียล แล้วนิกโกนั้นสวยและน่าสนใจแค่ไหนทำไมถึงต้องมา วันนี้ผมจะพามาดูกันครับ

How to เดินทางจากโตเกียว
เรามาจาก Ueno Station เลือกซื้อตั๋วของ JR เป็นแบบ One Day Pass แบบไปและกลับ ซึ่งราคาค่อนข้างแพงพอสมควรเลย มีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 10,000 เยน ประมาณ 2500 บาทครับ


ต้องนั่งรถไฟฟ้าสายสีเขียวจาก Ueno เพื่อไปลงที่สถานี Utsunomiya และจากอุสึโนมิยะไปลงที่ Nikko ครับ นั่งทั้งหมด 2 ต่อ ใช้เวลาเดินทางขาไปประมาณ 2 ชั่วโมง


และแล้วก็มาถึงปลายทาง Nikko Station ครับ ซื้อตั๋วรถบัสก่อน ผมซื้อเป็นรถบัสของ world heritage ครับ ราคา 500 เยน ขึ้นลงได้ทุกป้าย ข้อดีคือถูก ข้อเสียคือรอนาน



เมื่อลงไปตามจุดต่างๆ เพื่อนๆสังเกตรอบรถบัสที่ป้ายด้วยนะ ว่าเค้าจะมารับกี่โมง เพราะถ้าไม่รู้เวลาแต่ละรอบ พอเสร็จการเที่ยวในแต่ละจุดจะทำให้เรารอนานมากกก ครับ


ทริปนิกโกนี้ผมเลือกเที่ยว 3 จุดด้วยกันครับ คือ 1.สะพานชินเคียว สะพานแดงที่ใครก็ต้องมาถ่ายรูป 2. ศาลเจ้านิกโกโทโช และ 3. ศาลเจ้านิกโกฟูตาราซัง (แต่ใครจะเพิ่มวัดไทยุอิน เพิ่มไปก็ได้นะครับ แต่ของเราไม่ได้เข้าไปเนื่องจากช่วงที่มาอยู่ๆฝนก็ลงหนัก)
1.สะพานชินเคียว
ขึ้นรถบัส world heritage มา หรือหากใครพอมีแรงก็สามารถเดินมาถึงสะพานชินเคียวได้ครับ เนื่องจากระยะทางจากจุดขึ้นรถบัสมาถึงสะพานไม่ได้ไกลกันมากนัก แต่หากขึ้นรถบัสหมายเลขที่ต้องลงคือป้ายหมายเลข 7 ครับ

สะพานชินเคียวหรือสะพานศักดิ์สิทธิ์เป็นสะพานไม้สีแดงสะกดตาตั้งอยู่ในพื้นที่ของศาลเจ้านิกโก้ และติด 1 ใน 3 ของสะพานที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น
ตัวสะพานสร้างอยู่เหนือแม่น้ำไดยากาวะโดยมีความยาว 28 เมตร และสูง 10.6 เมตรหากวัดจากผิวน้ำ โดยหากอยากถ่ายรูปยืนอยู่บนสะพาน จะเสียค่าใช้จ่ายคนละ 300 เยน แต่ถ้ายืนถ่ายจากรอบนอกไม่เสียค่าใช้จ่ายนะครับ

สังเกตแม่น้ำด้านล่างน้ำใสมากๆครับ



พิกัด : https://goo.gl/maps/rgx2ufHtMwutqZJq6
2.ศาลเจ้านิกโกโทโช (Nikko Toshogu)
รถบัสสาย world heritage ให้ลงป้ายหมายเลข 83 ครับ จากนั้นก็ต้องออกแรงเดินสักเล็กน้อยเพื่อขึ้นมาชมจุดต่างๆภายในศาลเจ้า นิกโกโทโชกุหรือศาลเจ้านิกโกถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของการมาเที่ยวที่นิกโก ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี 1999 เป็นหนึ่งในโบราณสถานที่งดงามปราณีตที่สุดในโลก
ซึ่งก่อนจะเดินถึงตัวศาลเจ้าฯ สังเกตว่าจะมีจุดต่างๆที่ความสำคัญ เช่น Ishidorii tori gate, เจดีย์ 5 ชั้น, ประตูศาลเจ้าชื่อดัง อย่าง Yomeimon Gate สีทองอร่ามตา

Ishidorii Tori Gate : สร้างขึ้นในปี 1618 ประตูเพื่อเข้าสู่อาณาจักรชั้นในเป็นประตูโทริทำจากหินสร้างถวายขุนนางชั้นสูง Kuroda Nagamasa หินที่สร้างประตูลำเลียงมาจากเกาะคิวชู

เจดีย์ 5 ชั้น จะเห็นตั้งอยู่สีแดงเด่นๆแบบเป็นสง่าเลยครับ เจดีย์ชื่อ Gojunoto ซึ่งสร้างอุทิศแด่ขุนนางชั้นสูงนามว่า Sakai Tadakatsu แห่งเมืองโอบะมะ แต่ละชั้นสื่อว่าเป็นดินน้ำลมไฟ และอากาศ

Sanjingo เป็นอาคารคลังสมบัติแห่งการสักการะบูชาในศาสนาชินโตตัวอาคารเป็นงานไม้แกะสลัก โดยรูปแกะสลักที่มีชื่อเสียงบนอาคารคือช้างในจินตนาการ แกะสลักโดยบุคคลในยุคนั้นที่ไม่เคยเจอช้างมาก่อน

ประตูโยเมมง (Yomeimon Gate) ประตูชื่อดังซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของนิกโกโทโชกู อันนี้คือใครที่หาข้อมูลมาเที่ยวต้องเห็นภาพประตูนี้ในเน็ตอยู่เยอะมากๆครับ ซึ่งหากต้องการผ่านประตูนี้เข้าไปต้องซื้อตั๋วเพื่อเข้าชม มีค่าใช้จ่าย 1300 เยนครับ
ของจริงก็คือวิจิตรมากเพราะเต็มไปด้วยงานแกะสลักกว่า 500 ชิ้นอยู่บนประตู




ศาลเจ้าโทโชกุ หรือศาลเจ้าหลัก เป็นแลนด์มาร์กที่สำคัญที่สุดของจุดนี้เลย ภายในนี้ห้ามถ่ายภาพนะครับ


ด้านในยังเป็นที่พำนักอาศัยสุดท้ายของโชกุนโทกูงาวะ อิเอยาซุ ผู้ที่สร้างความเป็นปึกแผ่นให้กับประเทศญี่ปุ่นในยุคของรัฐบาลโชกุนโทกุงาวะ ผลงานของโชกุนท่านนี้คือเยอะมากครับ เป็นบุคคลที่มีความสำคัญมากกับประวัติศาสตร์ของประเทศ ใครอยากรู้เพิ่มเติมสามารถเสิชดูได้เลยนะครับ เพราะไม่สามารถนำมาเรียบเรียงเขียนได้หมด 55
พิกัด : https://goo.gl/maps/W23DQr5h8nKcoST96
3. ศาลเจ้านิกโกฟูตาราซัง
เป็นที่สุดท้ายที่เรามาภายในนิกโกครับ ก่อสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 8 เป็นศาลเจ้าเพื่อสักการะเทพ 3 องค์ คือ โอกูนินูชิ, ทาโงะริฮิเมะ, อาจิซูกิตากาฮิโกเนะ ซึ่งเชื่อว่าเป็นผู้นำความเจริญมาสู่ประเทศญี่ปุ่น



แม้ตัวศาลเจ้าไม่ได้หรูหราอลังการเหมือนศาลเจ้านิกโกโทโชกุ แต่ก็มีความสำคัญไม่แพ้กันครับ ภายในศาลเจ้าก็มีกลุ่มอาคารต่างๆอยู่หลายแห่งและมีสวนสวยสามารถเดินขึ้นไปชมได้



